สาระดีๆ MP บอกต่อ

รู้จัก ชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง อีกหนึ่งทางเลือกของการตรวจคัดกรอง COVID-19

รู้จัก ชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง อีกหนึ่งทางเลือกของการตรวจคัดกรอง COVID-19

ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำให้สถานพยาบาลใช้ ชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง ที่สามารถรู้ผลได้ใน 15-30 นาที เพื่อช่วยในการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ให้สามารถตรวจคัดกรองได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงยิ่งขึ้น โดยชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง เป็นหนึ่งในชุดตรวจแบบเร็วหรือ Test Kit ซึ่งมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ

1. Antigen Test เป็นการตรวจองค์ประกอบไวรัส จะเก็บตัวอย่างจากทางจมูก ลึกถึงคอหรือเก็บจากลำคอ

2. Antibody Test เป็นการตรวจภูมิคุ้มกัน จะใช้การเจาะเลือดตรวจ ซึ่งในปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ภูมิคุ้มกันอาจเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อหรือวัคซีน จึงไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ตรวจ

ซึ่ง Antigen Test จะทำให้ตรวจพบในระยะที่มี 'เชื้อปริมาณมากในร่างกาย' ส่วน Antibody Test จะตรวจพบในระยะที่เชื้อเริ่มมีปริมาณลดลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในการตรวจด้วยชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง เมื่อตรวจแล้วได้รับผลการตรวจเป็นลบ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ติดเชื้อเสมอไป แต่เชื้ออาจจะน้อยและตรวจไม่เจอ ดังนั้น หากผลเป็นลบก็ยังจำเป็นต้องกักตัวและรอติดตามมาตรวจในภายหลัง ส่วนการตรวจที่ได้ผลเป็นบวกนั้น ก็อาจจะต้องพิจารณาเรื่องผลบวกลวงร่วมด้วย จึงจำเป็นต้องมีการตรวจซ้ำด้วย RT-PCR อีกครั้ง ซึ่งหากผลเป็นลบก็ต้องกักตัวเช่นกัน แต่หากผลเป็นบวกก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการการรักษาต่อไป

วิธีใช้ชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง

1. สอดก้านสวอปเก็บตัวอย่างในโพรงจมูก

2. ดึงฝาหลอดน้ำยาสกัดเชื้อออก จุ่ม และหมุนอุปกรณ์เก็บตัวอย่างเพื่อสกัดเชื้อในน้ำยา บีบหลอดน้ำยา เพื่อรีดเชื้อในอุปกรณ์เก็บตัวอย่าง จากนั้นทิ้งอุปกรณ์เก็บตัวอย่าง ปิดฝาจุกหลอดให้แน่นสนิท

3. หยดน้ำยาที่สกัดเชื้อแล้วลงในหลุมใส่ตัวอย่าง 3 หยด รออ่านผลภายใน 15 – 30 นาที

หากผลการทดสอบเป็นบวกผลบวก จะมีแถบปรากฏขึ้นทั้งสองแถบคือ แถบทดสอบ (T) และแถบควบคุม (C) ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังจากรู้ผลก็คือควรแยกตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายไวรัสไปยังผู้อื่น และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด เพื่อประเมินอาการในการดูแล

ส่วนผลการทดสอบที่เป็นลบ จะมีแถบปรากฏเฉพาะแถบควบคุม (C) ซึ่งหมายความว่าไม่พบแอนติเจนไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด-19 แต่หากเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เชื้ออาจอยู่ในระยะฟักตัว ดังนั้น สิ่งที่ควรทำหลังจากรู้ผลก็คือควรแยกตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายไวรัสไปยังผู้อื่น หรือหากปรากฏอาการของโควิด-19 ก็ควรที่จะทำการทดสอบซ้ำอีกครั้ง และถ้ามีประวัติเสี่ยงสัมผัส ก็ควรแยกกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และทดสอบซ้ำอีกครั้งภายหลัง 3-5 วัน

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผลการทดสอบไม่สามารถแปลผลได้ อาจจะเกิดจากการไม่ได้ปฏิบัติตามวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง หรือเกิดจากการใช้ตัวอย่างไม่เพียงพอ หรือใช้ตัวอย่างมากเกินไป ซึ่งในกรณีเหล่านี้ สิ่งที่ควรทำก็คือควรทดสอบใหม่ด้วยอุปกรณ์การทดสอบใหม่ หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยจำเป็นต้องกักตัวที่บ้านจนกว่าจะได้รับยืนยันผลการทดสอบใหม่

ดังนั้น ด้วยวิธีการที่ง่ายต่อการใช้งานและแปลผล ชุดตรวจการติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง จึงเป็นชุดตรวจที่เหมาะแก่การใช้งานในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแค่ใช้งานได้สะดวกรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายจากการออกไปนอกบ้าน รวมทั้งลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อให้สังคมไทยอีกด้วย

        ที่มา: prachachat.net


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก

#Covid19 #โควิด19 #ชุดตรวจโควิด #ชุดตรวจโควิด19 #ข่าวต้องรู้สู้โควิด #AntigenTestKit #ATK #RapidAntigenTest #SDBiosensor

------------------------------------

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Website : http://www.mpgroup.co.th/

Line : @mpgroupthailand

#MPGroupThailand

#LiveAnExcellentLife



MP GROUP (THAILAND) CO., LTD

12, Soi Nakniwat 12 Nakniwat Road, Ladprao, Ladprao 10230, Bangkok, Thailand

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว