ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
ที่กำลังรุนแรงในตอนนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ก็ได้มีการยกระดับมาตรการเข้มข้น
“ล็อกดาวน์” กรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด รวมทั้งยกระดับมาตรการควบคุมโรครวม 10
จังหวัดที่มีการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม
สมุทรสาคร สมุทรปราการ สงขลา ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส โดยมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่
12 ก.ค. 2564 เป็นต้นไป
การยกระดับมาตรการควบคุมโรคในครั้งนี้ประกอบด้วย
3 ส่วนหลัก คือ
1. จำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลขั้นสูงสุดหรือ
"ล็อกดาวน์"
- การให้ขนส่งสาธารณะปิดให้บริการ 21.00-03.00
น.
- ให้ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่ง ปิดเวลา
20.00-04.00 น.
- ห้างสรรพสินค้า เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต
- ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคาร
สถาบันการเงิน ร้านขายยา ร้านขายอุปกรณ์สื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน
เปิดบริการได้ถึงเวลา 20.00 น.
- ร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ห้ามทานหรือดื่มในร้าน
เปิดบริการได้ถึงเวลา 20.00 น.
- สวนสาธารณะเปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.
- ให้รัฐและเอกชนทำงานที่บ้านมากที่สุด
- ห้ามรวมกลุ่มเกิน 5 คน หากไม่ใช่เพื่อการปฏิบัติหน้าที่
ประกอบอาชีพ กิจกรรมศาสนาหรือประเพณี
2. กำหนดเวลาการออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว
- ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่ 21.00 น. - 04.00
น. ยกเว้นกรณีจำเป็น
- ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการควบคุมเพื่อจำกัดการเดินทางข้ามจังหวัด
- สถานศึกษาให้จัดการเรียนออนไลน์เท่านั้น
3. เร่งรัดมาตรการด้านการป้องกันโรค
การฉีดวัคซีน การควบคุมโรค การรักษาพยาบาลและการเยียวยา
- เร่งรัดการให้บริการตรวจหาเชื้อ
- ปรับแผนการกระจายวัคซีน
เร่งฉีดผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 60 ปี และกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค
- จัดสรรวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากต่างประเทศให้ผู้สูงอายุ
ผู้ป่วยเรื้อรัง ชาวต่างชาติที่อายุเกิน 60 ปีและมีโรคประจำตัว
และผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ (นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต)
- จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์เป็น
booster dose ให้บุคลากรทางการแพทย์ให้เร็วที่สุด
- สนับสนุนจัดตั้ง
รพ.สนาม ไอซียูสนาม การแยกกักในชุมชน และการแยกกักที่บ้าน
รวมถึงการให้ฟ้าทะลายโจรสำหรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรงที่อยู่ระหว่างแยกกัก


ทั้งนี้
สำหรับมติที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ศบค. ครั้งนี้ จะบังคับใช้ 14 วัน โดยข้อกำหนดต่าง ๆ จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง
ที่มา: bbc.com
----------------------------------------------------------
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Website : http://www.mpgroup.co.th/
Line : @mpgroupthailand
#MPGroupThailand
#LiveAnExcellentLife