องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้เชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ "โอมิครอน” เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) โดยโอมิครอนถูกพบและรายงานเป็นครั้งแรกจากทีมนักวิจัยในแอฟริกาใต้ และเป็นสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ที่โปรตีนหนาม (Spike protein) ถึง 32 ตำแหน่ง มากกว่าทุกสายพันธุ์ อีกทั้งยังสามารถแพร่กระจายได้เร็วกว่า หลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันได้ดี และมีแนวโน้มที่จะต้านประสิทธิภาพวัคซีน ซึ่งการติดเชื้อโอมิครอนนั้น ผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้ คือ จมูกยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นยังรับรสได้ดี และถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมีไข้ และไม่มีอาการไอ แต่พบว่ามีอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ปวดกล้ามเนื้อ และโดยส่วนใหญ่ 2-3 วันอาการจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลในปัจจุบันอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปได้ว่าอาการจะรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิมหรือไม่

ทั้งนี้ นอกเหนือจากความสามารถในการแพร่กระจายที่เร็วกว่าและแนวโน้มในการต้านประสิทธิภาพวัคซีน ข้อกังวลที่ชัดเจนอีกหนึ่งประการสำหรับโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน ก็คือการที่เชื้อกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อาจทำให้เกิดผลลบปลอมในการตรวจตามมา เนื่องจากไวรัสมีการกลายพันธุ์ไปมาก จึงทำให้ชุดตรวจบางยี่ห้อไม่สามารถตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนได้ ซึ่งในกรณีนี้ คณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (USFDA) ได้มีประกาศเตือนให้ชุดตรวจ RT-PCR ควรตรวจยีนเป้าหมายหลายยีน เพื่อป้องกันผลลบปลอมในเชื้อกลายพันธุ์

อย่างไรก็ดี สำหรับชุดตรวจ Allplex SARs-CoV-2 Assay โดย Seegene ประเทศเกาหลีใต้ สามารถตรวจได้ถึง 5 Target gene คือ N, RdRP, E และ S Gene รวมทั้ง S Variant Gene จึงทำให้ชุดตรวจดังกล่าวสามารถตรวจครอบคลุมเชื้อกลายพันธุ์ ได้แก่ B.1.1.7 (อัลฟ่า), B.1.351 (เบต้า), P.1 (แกมม่า), B.1.617.2 (เดลต้า), B.1.617.21.1 (เดลต้าพลัส) รวมทั้งสามารถตรวจเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอมิครอนได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากชุดตรวจดังกล่าวจะตรวจการติดเชื้อโควิดได้แล้ว ยังสามารถระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม หรือเป็นเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ และสามารถระบุสายพันธุ์กลายพันธุ์ได้ด้วยชุดตรวจ “Allplex SARS-CoV-2 Variant I & II Assay”

ในท้ายที่สุดนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย เราควรจับตามองและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องตรวจหาเชื้อให้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ผู้ที่ติดเชื้อสามารถเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที และควรป้องกันการติดเชื้อในประชากรกลุ่มใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดไวรัสกลายพันธุ์ขึ้น นอกจากนี้เราควรทำความสะอาดมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างระหว่างกัน และงดการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด เพื่อที่จะได้ผ่านพ้นวิกฤตนี้อย่างปลอดภัยไปด้วยกัน ด้วยความห่วงใยจาก MP Group

--------------------------------------------------

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

Website : http://www.mpgroup.co.th/

Line : @mpgroupthailand

#MPGroupThailand

#LiveAnExcellentLife