นับตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2565 บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ณ อาคารไชยยศสมบัติ 2 ชั้น 2 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี เพื่อยกระดับศักยภาพของพนักงาน สร้างความร่วมมือในการสนับสนุนวัสดุ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับบุคลากร รวมทั้งสร้างความร่วมมือด้านการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม
โดยหลักสูตร Micro MBA เริ่มต้นเปิดหลักสูตรตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ถึง 18 มิถุนายน 2565 และเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมเนื้อหาด้านธุรกิจต่าง ๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจถึงกระบวนการที่จำเป็นในการทำธุรกิจตั้งเเต่ในระดับพื้นฐานเบื้องต้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริงทันที พร้อมเปิดมุมมองเเละประสบการณ์ใหม่ ๆ ทางธุรกิจในเชิงกว้าง ผ่านการทำกิจกรรม Workshop ฝึกฝนในภาคปฏิบัติ ที่จะช่วยยกระดับพัฒนาศักยภาพของพนักงานที่เข้ารับการอบรมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องไปกับนโยบายที่เน้นในด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ เล็งเห็นว่าพนักงานเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญ โดยเป็นฟันเฟืองเล็ก ๆ ที่ต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองในการขับเคลื่อนบริษัทฯ ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้น จึงได้จัดโครงการหลักสูตรดังกล่าวขึ้นเพื่อเป็นการติดอาวุธทางปัญญาให้แก่พนักงาน เพื่อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
จนกระทั่งในวันที่ 18 มิถุนายน 2565 บริษัท เอ็มพี กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ร่วมกันจัดพิธีปิดหลักสูตรโครงการอบรมธุรกิจระยะสั้น MP Group Micro MBA โดยภายในงานได้มีการจัดประกวดแผนธุรกิจยอดเยี่ยม ชิงรางวัล Micro MBA Best Business Pitching Awards ทั้งหมด 3 รางวัล โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นผู้ตัดสินผลการนำเสนอดังกล่าว นอกจากนี้ รศ.ดร.วิเลิศ ยังได้ให้เกียรติมอบประกาศนียบัตรเนื่องในโอกาสการจบหลักสูตรโครงการอบรมธุรกิจระยะสั้น MP Group Micro MBA ให้แก่ผู้เข้ารับการอบรม เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่ผ่านการอบรมในหลักสูตรดังกล่าว เพื่อนำไปประยุกต์เข้ากับการปฏิบัติงานของตนในการขับเคลื่อนองค์กรต่อไปในภายภาคหน้า
ไม่ใช่เพียงแค่การให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคคลากร
แต่บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ๆ
เพื่อต่อยอดความรู้เดิมที่มีอยู่ให้มองเห็นโลกที่กว้างขึ้นและเปิดประตูสู่โอกาสทางการเติบโตอย่างยั่งยืน
ดั่งคำกล่าวที่ว่า “Knowledge is Power” ที่แปลป็นภาษาไทยได้ว่า
“ความรู้คืออำนาจ” โดยความรู้นั้นคือสิ่งที่จะช่วยทำให้มองเห็นโอกาสต่าง ๆ
ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นพลังในการรับมือกับอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปต่อยอด
ใช้ประโยชน์ สร้างสรรค์ New S-Curve ใหม่ ๆ
ที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคต หลังจากที่ได้เข้าร่วมการอบรมในหลักสูตรดังกล่าวนี้
more MP เล่าข่าว Jun 2022
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว