สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยตอนนี้ สายพันธุ์ “โอมิครอน” ได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ครอบครองพื้นที่การระบาดของประเทศไทยมากถึง 97.2% และพบในทุกจังหวัด 77 จังหวัดของประเทศ โดยมีกรุงเทพฯ เป็นจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนสูงที่สุดส่วนผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศพบเป็นเชื้อโอมิครอน 99.4% ในขณะที่ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ถึง 96.4%
โดยเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 เริ่มมีสัดส่วนของการป่วยการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และอาจเข้ามาแทนที่สายพันธุ์หลัก BA.1 เนื่องจาก BA.2 มีความสามารถในการแพร่กระจายได้ดีกว่า BA.1 ประมาณ 30-40% สอดคล้องกับที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานถึงสถานการณ์ระบาดของโอมิครอน BA.2 ว่าเชื้อโอมิครอน BA.2 นั้นสามารถแพร่ติดเชื้อได้ง่ายกว่าโอมิครอนสายพันธุ์หลักถึง 30%
นอกจากการแพร่กระจายที่ง่ายขึ้นแล้ว โอมิครอนสายพันธุ์
BA.2 นั้นยังถูกจำแนกด้วยการตรวจเชื้อวิธีต่าง ๆ ได้ยากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม
BA.1 จนได้รับสมญานามว่า
“โอมิครอนล่องหน” เนื่องจากมีลักษณะทางพันธุกรรมบางจุดที่ทำให้การระบุสายพันธุ์ด้วยวิธีตรวจเชื้อต่าง
ๆ โดยเฉพาะการหาปฏิกิริยาลูกโซ่พอลิเมอเรส (PCR) ยากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม
แต่อย่างไรก็ตาม น้ำยา Allplex SARS-CoV-2 Master
Assay นั้นสามารถตรวจเชื้อได้ถึง 5 Target gene ซึ่งนับว่าเป็นการตรวจที่ครอบคลุมการกลายพันธุ์ที่พบในสายพันธุ์โอมิครอน
ทั้งในสายพันธุ์หลัก BA.1 และ สายพันธุ์ย่อย BA.2 ด้วยเช่นกัน
อ้างอิง
1. รู้จักโอมิครอนล่องหน BA.2 ตรวจเจอยากขึ้น ลามแล้ว 40 ประเทศ. (2022, January 28). Thairath Online. Retrieved February 21,
2022, from https://www.thairath.co.th/news/foreign/2299444?utm_source=dable
2. “โอมิครอน” ครองทุก จว. จับตา “BA.2” กลายพันธุ์มากสุด
ติดง่าย-แพร่เร็ว. (2022,
February 19). Thairath Online. Retrieved February 21, 2022, from
https://www.thairath.co.th/news/local/2319892
more สาระดีๆ MP บอกต่อ Feb 2022
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว